รหัสสินค้า | SKU-00040 |
หมวดหมู่ | อาหารเสริม |
ราคา | 2,500.00 บาท |
ลงสินค้า | 14 ก.ย. 2559 |
อัพเดทล่าสุด | 8 ต.ค. 2561 |
คงเหลือ | 0 กล่อง |
CNI Well3 Life Enzyme
ได้รับฮาลาล
ส่วนประกอบ 100% จากธรรมชาติ
ปราศจากสารเคมีปรุงแต่ง
ได้รับการรับรองจากสถาบันทางการแพทย์ในระดับนานาชาติ
บริโภคได้อย่างปลอดภัย
เอนไซม์ที่ทนอุณหภูมิได้สูงถึง 118 C
มาตรฐาน GMP
เพื่อการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
ด้วยคุณสมบัติ Metabolic Enzymatic Nutrient Exchange Process (MENEP)
· กระตุ้นปฏิกิริยาและเพิ่มคุณค่าสารอาหาร
· ยับยั้งปัจจัยที่ส่งผลทำลายคุณค่าของสารอาหาร
· ช่วยบำรุงสุขภาพ
· ช่วยเสริมกระบวนการสร้างเอนไซม์ใหม่
ปฏิกิริยาการรักษา
เมื่อเริ่มรับการบำบัดด้วยเอนไซม์ คุณอาจจะมีอาการไม่สบายเนื้อตัวในชั่วระยะหนึ่ง เพราะร่างกายของคุณกำลังค่อยๆฟื้นตัว อาการผิดปกติเหล่านี้เรียกกันว่า “ปฏิกิริยาการรักษา” ซึ่งจะมีลักษณะอาการแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยเกิดจากเอนไซม์ไปกระตุ้นการเยียวยาตนเองของร่างกายให้เพิ่มขึ้น ในกระบวนการนี้ เอนไซม์จะเริ่มกระตุ้นเซลล์ ระบบทางเดินหายใจ และเลือดให้เริ่มขจัดสารพิษ จึงเป็นเหตุให้เรารู้สึกไม่สบายเนื้อตัว
4 ขั้นตอนของกระบวนการรักษา
ขั้นการจัดเตรียมสารอาหาร (ปฏิกิริยาขั้นต้น)
ร่างกายจะเริ่มสร้างสมดุลของสารอาหารในร่างกาย และเริ่มปรับปรุงการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย ด้วยการกระตุ้นกระบวนการสร้างพลังงานภายในเซลล์
อาการ
1. ร่างกายกลับมาสดชื่น แข็งแรง มีกำลัง และผิวพรรณเปล่งปลั่ง
2. บางคนอาจมีอาการหลับยาก เนื่องจากรู้สึกตื่นตัว และไม่รู้สึกเหนื่อยล้า
ขั้นตอนการขจัดสารพิษ
ของเสียและสารพิษจากกระบวนการสร้างพลังงานซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด จะถูกขจัดออกจากร่างกาย เพื่อให้ค่า pH ของร่างกายกลับคืนเป็นด่างอ่อนๆอีกครั้ง
อาการ
1. ปวดอุจจาระบ่อย และปัสสาวะมีสีเข้มขึ้น
2. บางรายอาจรู้สึกคันที่ผิวหนัง หรือขึ้นผื่น มีอาการท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้ออุจจาระเป็นสีเขียว มีอาการติดเชื้อในช่องปาก มีขี้ตาเพิ่มขึ้น เริ่มมีรังแค และมีไข้เล็กน้อย
3. ในสตรีอาจมีอาการปวดประจำเดือน ประจำเดือนมานานขึ้น และหงุดหงิดง่าย
ขั้นตอนการปรับสมดุลของระบบไหลเวียนเลือดและอาการปวด
ร่างกายเริ่มรู้สึกปวด เมื่อเอนไซม์เริ่มปรับระบบไหลเวียนเลือดให้คล่องตัวขึ้น จากเดิมที่อาจจะมีการติดขัด
อาการ
1. อาการปวดที่เกิดขึ้นในบางบริเวณของร่างกายอาจจะรุนแรงแต่จะหายไปใน 2-3 วัน
ขั้นตอนการสร้างเซลล์ใหม่ และอาการเซื่องซึม
เซลล์ที่เสียหาย หรือตายไปแล้วในส่วนที่เจ็บป่วยจะค่อยเยียวยาตัวเอง โดยการเริ่มสร้างเซลล์ใหม่เพื่อทดแทนเซลล์เดิม
อาการ
1. อาการเซื่องซึม ไม่มีชีวิตชีวา
โรค / ปัญหาสุขภาพ |
ปฏิกิริยาการรักษา |
สุขภาพปกติ |
ร่างกายแข็งแรง, สีหน้าสดใส, นอนหลับน้อยลง และอาจมีอาการเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ เกิดขึ้นในช่วงสั้นก็หายไปเอง |
ภาวะ Sub-Health |
ปวดไหล่แขนขาอ่อนแรง ปวดศีรษะ มีอาการเซื่องซึม เบื่ออาหาร ท้องผูก ปัสสาวะบ่อยขึ้น มีอาการท้องอืดท้องเฟ้อ โดยอาการเหล่านี้จะหมดไปเมื่อพักผ่อนสัก 2-3 วัน |
สิว |
อาจจะแย่ลงในช่วงต้น แต่จะค่อยๆหายไป ควรงดอาหารทอดอาหารที่มีสรรพคุณกระตุ้นร่างกาย และอาหารที่ให้พลังงานสูง |
ไมเกรน / โลหิตจาง |
อาการปวดหัวจะรุนแรงมากขึ้น หรือเกิดบ่อยขึ้นในช่วงต้น แต่อย่างไร ร่างกายจะเริ่มมีกำลังและจะหลับได้ลึกขึ้นใน 1-2 สัปดาห์ |
ผิวแพ้ง่าย |
อาการคันที่ผิวหนังอาจจะรุนแรงขึ้นในช่วงต้น แต่จะทุเลาลงใน 2-3 วัน แนะนำให้บริโภคในปริมาณน้อยก่อนแล้วค่อยๆเพิ่มปริมาณ หรือหยุดบริโภค แล้วค่อยบริโภคใหม่อีกครั้งในอีก 2-3 วัน |
ภาวะน้ำหนักเพิ่มง่าย / โรคอ้วน |
น้ำหนักจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงสั้นๆ เพราะต้องใช้เวลาในการเผาพลาญกรดไขมัน อาจจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน หรือมากกว่านั้น |
ริดสีดวง |
อาจมีเลือดปนมากับอุจจาระบ้างเป็นครั้งคราว |
ปัญหาในระบบทางเดินหายใจ / ภาวะนอนไม่หลับ |
อาการไออาจจะรุนแรงขึ้น เสมหะมีสีเหลือง แต่จะค่อยๆลดความข้นเหนียวลงเรื่อยๆ อาจมีอาการนอนหลับได้ยากในช่วงต้นๆ แต่จะค่อยดีขึ้นตามลำดับ |
อาการทางประสาท |
รู้สึกตื่นตัว และนอนหลับยาก (ไม่แนะนำให้บริโภคตอนกลางคืน) |
ปวดข้อรูมาตอยด์, โรคเกีาท์ |
บริเวณที่มีปัญหาจะรู้สึกปวดขึ้นอีก อาจจะรุนแรงขึ้นบ้าง แต่จะหายดีขึ้น |
โรคหัวใจ |
หัวใจอาจเต้นเร็วขึ้นในระยะแรก แนะนำให้แบ่งบริโภคปริมาณน้อยหลายๆครั้งแทน จากนั้นค่อยๆเพิ่มปริมาณขึ้น อัตราการเต้นของหัวใจจะค่อยๆเป็นปกติภายใน 1 ปี |
ความดันโลหิตสูง |
อาจรู้สึกหนักศีรษะ เวียนหัวอยู่ 1-2 สัปดาห์ |
โรคโลหิตจาง |
อาการรุนแรงแตกต่างกันไปตามขนาดของร่างกายอาจมีเลือดกำเดาออกเล็กน้อย (โดยเฉพาะในสตรี) |
ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร |
รู้สึกแน่นและร้อนในช่องอก ไม่รู้สึกอยากอาหาร |
ติดเชื้อในกระเพาะอาหาร |
บริเวณที่ติดเชื้อจะรู้สึกปวด หรือไม่สบายตัว ควรลดปริมาณรับประทานลงหรือ เปลี่ยนมารับประทานหลังมื้ออาหาร หากอาการรุนแรง |
ปัญหาเกี่ยวกับลำไส้ (ติดเชื้อ/เนื้องอก) |
มีอาการท้องเสียเล็กน้อย |
ปัญหาเกี่ยวกับตับ หรือผ่านการรักษาที่ใช้ระยะเวลานาน |
พิษจะถูกขจัดออกทางต่อมเหงื่อ มีอาการคัน หรือมีผื่นขึ้น รู้สึกเซื่องซึม อาการลิ้นแข็ง คลื่นไส้ มีอาการบวมน้ำ ปวดปัสสาวะบ่อยครั้ง และอาจรู้สึกปวดในบริเวณที่มีปัญหา |
ช่องคลอดอักเสบ |
อาจมีตกขาวเกิดขึ้น |
ปัญหาเกี่ยวกับไต |
อาจเกิดภาวะขาดโปรตีน หน้าบวม ขาอาจบวมน้ำเล็กน้อย |
เบาหวาน |
อาการอาจรุนแรงขึ้นบ้าง ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงในช่วงสั้นๆ เกิดบวมน้ำที่แขนขา ระดับน้ำตาลจะเป็นปกติภายใน 3 เดือน |
ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว เนื้องอกในหลอดเลือด ภาวะลิ่มเลือดในหลอดเลือดโรคหลอดเลือดในสมอง |
ความดันเลือดอาจลดและเพิ่มอย่างรุนแรงในช่วงสั้นๆ และจะคงที่ในช่วง 3 เดือน อาจรู้สึกเวียนศีรษะ และหนักศีรษะประมาณ 1-2 สัปดาห์ |
หลอดลมอักเสบเรื้อรัง |
อาการปากแห้ง เวียนศีรษะ กลืนน้ำลายลำบาก |
ภาวะเม็ดเลือดขาวบกพร่อง |
อาการปากแห้ง รู้สึกไม่สบายในกระเพาะอาหาร มีอาการฝันสับสนขณะนอนหลับ |
1. ปฏิกิริยาการรักษาปกติจะหมดลงในช่วง 1-2 สัปดาห์
* สำหรับผู้ที่ปัญหาเรื่องระบบการสร้างพลังงาน อาการอาจจะยาวนานถึง 1 เดือน หรือจนกว่าร่างกายจะฟื้นตัว
2. ปฏิกิริยาการรักษาจะเกิดยาวนานกว่าในสตรี
3. สตรีที่แต่งงานแล้ว หรือสตรีในวัยหมดประจำเดือนจะมีอาการปฏิกิริยาการรักษารุนแรงกว่าสตรีโสด
ใบประกาศรับรองคุณภาพ
ความปลอดภัย
ผลิตภัณฑ์เอนไซม์หลายชนิดในท้องตลาดอาจถูกปนเปื้อนด้วยเชื้อโรคได้ง่าย อาจเกิดจากกระบวนการผลิตหรือเกิดพิษในผลิตภัณฑ์เอง Well3 Life Enzyme ผลิตจากผักและผลไม้ตามธรรมชาติ ปราศจากสารกันบูดสารต้านอนุมูลอิสระสังเคราะห์ แซคคาไรด์ สีปรุงแต่ง และปราศจากส่วนผสมจากสัตว์ อีกทั้งยังปราศจากโลหะหนัก และสิ่งตกค้างจากสาหร่าย ยาฆ่าเชื้อ และสารเคมีต่างๆ
ความเสถียร
เนื่องด้วยเอนไซม์มีหลากหลายชนิด เมื่อนำมาผสมกัน อาจจะหักล้างกันและกันเอง ผลิตภัณฑ์เอนไซม์ส่วนใหญ่จึงเลือกใช้เพียงเอนไซม์เพียงชนิดเดียว (เอนไซม์จากผลไม้) บางผลิตภัณฑ์เลือกเติมน้ำเชื่อม สารคงสภาพ และสารเคมีต่างๆเพื่อคงสภาพของผลิตภัณฑ์ไว้ แต่ก็จะคงสภาพไว้เพียงช่วงสั้นๆ (3 เดือนถึง 2 ปี) Well3 Life Enzyme ผสานเอนไซม์จากธรรมชาติหลายร้อยสายพันธุ์ด้วยเทคโลโนยีขั้นสูง โดยปราศจากสารเคมี จึงสามารถคงสภาพอยู่ได้และคงความไวต่อปฏิกิริยาได้ยาวนานถึง 5 ปี และอาจนานกว่านั้นหากเก็บรักษาอย่างเหมาะสม (ในที่แห้งและเย็น)
ความไวต่อปฏิกิริยา
ระดับความไวต่อปฏิกิริยาจะถูกชี้วัดโดยการวิเคราะห์ความมีประสิทธิภาพของเอนไซม์ที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ ยิ่งมีระดับความไวต่อปฏิกิริยาสูง ก็จะยิ่งมีคุณค่ามาก และที่สำคัญไปกว่านั้น หากเอนไซม์ที่เราบริโภคเข้าไปนั้นยังคงความไวต่อปฏิกิริยาไว้ได้ แม้จะเข้าสู่กระเพาะอาหารแล้วก็ตาม เพราะโดยมากเอนไซม์จะสูญเสียคุณสมบัตินี้เมื่ออยู่ในอุณหภูมิสูงกว่า 50 ˚C นอกจากนี้น้ำย่อย และการเก็บรักษาไม่ถูกวิธีก็ส่งผลกระทบต่อระดับความไวต่อปฏิกิริยาด้วยเช่นกัน ซึ่งหากสูญเสียความไวต่อปฏิกิริยาไป การที่รับประทานเอนไซม์เข้าไปก็ไร้ประโยชน์
ความมีประสิทธิภาพ
Well3 Life Enzyme สามารถป้องกันไขมันชนิด LDL (Low Density Lipoprotein ไขมันชนิดนำพาคลอเรสเตอรอลเข้าสู่กระแสเลือด) จากการถูกออกซิไดซ์ เพื่อยับยั้งการเกิด Foam Cell อันเป็นเหตุของริ้วไขมันในหลอดเลือดซึ่งจะปกป้องหัวใจ และป้องกันภาวะการติดเชื้อ
ปราศจากรังสีแกมม่า
ระบบตรวจสอบรังสีแกมม่าได้ตรวจสอบตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของ Well3 Life Enzyme เพื่อวัดการปนเปื้อนของรังสีแกมม่าในผลิตภัณฑ์ จากการตรวจสอบไม่พบการปนเปื้อนรังสีแกมม่าในผลิตภัณฑ์เลย จึงรับรองได้ว่า Well3 Life Enzyme ผ่านการทดสอบการปนเปื้อนรังสีแกมม่า
6 หน้าที่การทำงานหลักของ Well3 Life Enzyme
คืนสมดุลของระบบภายในร่างกาย
เอนไซม์ปรับสมดุลของค่า pH ของเลือดให้เป็นด่างเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยขจัดของเสียที่เป็นพิษออกจากเซลล์ได้ อีกทั้งช่วยให้แบคทีเรียฝ่ายดีในลำไส้เจริญเติบโต ช่วยในระบบย่อยอาหาร เสริมความแข็งแรงให้แก่เซลล์ และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น
ต้านการอักเสบ และต้านการติดเชื้อแบคทีเรีย
อาการอักเสบเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ที่เจ็บป่วยติดเชื้อแบคทีเรีย เอนไซม์จะช่วยกระตุ้นให้เซลล์เม็ดเลือดขาวรักษาเซลล์ที่เจ็บป่วย เอนไซม์เป็บทิเดสเป็นเอนไซม์ที่หน้าที่ในการต้านการอักเสบ และการต้านติดเชื้อแบคทีเรีย
ช่วยในระบบย่อย และดูดซึมสารอาหาร
เมื่อเราทานอาหารเสริม เอนไซม์จะช่วยย่อยสารอาหารต่างๆที่เดิมมีโมเลกุลใหญ่และซับซ้อน ให้เป็นโมเลกุลเล็กๆที่ง่ายต่อการดูดซึมของเซลล์
ช่วยล้างพิษ
การล้างพิษเป็นหนึ่งในหน้าที่ที่สำคัญที่สุดของเอนไซม์ เพราะเอนไซม์สามารถขจัดสารพิษออกจากร่างกาย อีกทั้งยังช่วยขจัดหนองและเชื้อโรคออกจากบาดแผลและหลอดเลือดออกจากร่างกายผ่านทางอวัยวะที่ช่วยล้างพิษ ดังนั้น ร่างกายจึงสามารถกลับคืนเป็นปกติ และรอดจากการโจมตีของอนุมูลอิสระ
เสริมสร้างเซลล์ใหม่
เอนไซม์จะช่วยเพิ่มอัตราการสร้างพลังงานเพื่อเสริมความแข็งแรงและกำลังของเซลล์ต่างๆ อีกทั้งยังช่วยส่งสารอาหารให้กับบริเวณที่เจ็บปวดของร่างกาย ช่วยให้เซลล์ที่เสียหายได้รับรักษาและสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นทดแทน
ช่วยฟอกเลือด
เอนไซม์จะช่วยสลายคลอเลสเตอรอล ไขมัน กรดยูริก สารประกอบที่มีฤทธิ์เป็นกรดต่างๆ และลิ่มเลือดเพื่อทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น
เอนไซม์กว่า 300 ชนิดที่ร่างกายจะได้รับ
เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่มีเอนไซม์ชนิดเดียวแล้ว ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมจากเทคโนโลยีขั้นสูงยังมีคุณสมบัติทั้งไวต่อปฏิกิริยา ความเสถียร ความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพดีกว่า และร่างกายยังได้รับเอนไซม์มากกว่าผลิตภัณฑ์เอนไซม์อื่นๆในท้องตลาดถึง 30 เท่า
คุณสมบัติ |
ยี่ห้ออื่นๆ |
Well3 Life Enzyme |
ชนิดของเอนไซม์ |
กลุ่มเดียว |
หลากหลายกลุ่ม และมาจากธรรมชาติ |
ลักษณะ |
ผง / ของเหลว |
เส้นใยเคลือบเอนไซม์ |
ความเสถียร |
ต้องเติมน้ำเชื่อม หรือสารสังเคราะห์เพื่อคงสภาพ |
ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงทำให้เอนไซม์กว่า 300 ชนิดอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่ต้องใช้สารเคมีอันตราย |
ความไวต่อปฏิกิริยา |
ยังทำงานได้ในอุณหภูมิที่สูงถึง 118 ˚C |
|
ความปลอดภัย |
ยังคลุมเครือ |
ผ่านการรับรองทั้งจากเกาหลี ฮ่องกง จีน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และมาเลเซีย ปราศจากสารพิษ โลหะหนัก แบคทีเรีย สารเคมี และยาฆ่าเชื้อ ถือเป็นเอนไซม์คุณภาพที่ได้รับการรับรอง |
ประสิทธิภาพ |
เหมาะสำหรับช่วยในระบบย่อยอาหาร หรือสำหรับใช้ภายในบ้าน |
เหมาะสำหรับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม |
อายุการใช้งาน |
น้อยกว่า 2 ปี (ต้องรับประทานภายใน 7 วัน หลังจากเปิดบรรจุภัณฑ์) เอนไซม์จะเริ่มทำงานทันทีเมื่อสัมผัสกับความชื้น ดังนั้นเอนไซม์ในรูปของเหลวจะมีอายุที่สั้นกว่า |
มากกว่า 5 ปี (บรรจุแยกเป็นซองเล็ก) ด้วยเทคโนโลยี MENEP จะจัดเรียงเอนไซม์เป็นสายยาว ซึ่งเมื่อรับประทานเข้าไป เอนไซม์จะถูกกระตุ้นด้วยน้ำในร่างกาย หรือน้ำอุ่นที่ผสมเพื่อรับประทาน |
Tips
เอนไซม์บริสุทธิ์ 100% ที่ใช้ในงานวิจัยทางเคมี มีมูลค่าสูงกว่าทองคำ
ปริมาณที่แนะนำบริโภคของ Well3 Life Enzyme
ปริมาณที่แนะนำเพื่อการดูแลสุขภาพ |
||||
|
วิธีรับประทาน |
ปริมาณ |
ระยะเวลา |
|
ขั้น |
1 |
ก่อนมื้ออาหารและก่อนนอน (เช้า/กลางวัน/เย็น) |
4 ซอง ต่อ วัน |
3 เดือน (เพื่อล้างพิษ) |
2 |
1 ซองทั้งเช้า และเย็น |
2 ซอง |
ทุกวัน (เพื่อดูแลสุขภาพ) |
|
ปริมาณที่แนะนำเพื่อการบำบัดโรค |
||||
อาการ |
เล็กน้อย |
1 ซอง ทุกๆ 2 ชม. |
6 – 8 ซอง ต่อ วัน |
จนกว่า อาการจะหมดไป |
รุนแรง |
1-2 ซอง ทุกๆ 2 ชม. |
12 – 18 ซอง ต่อ วัน |
||
ปริมาณที่แนะนำสำหรับเด็ก |
||||
อายุ |
|
เน้นบำบัดอาการ |
ไม่เน้นบำบัดอาการ |
|
>5 ปี |
1 ซอง 4 ครั้งต่อวัน |
1 ซองทั้งเช้า และเย็น |
||
< 5 ปี |
1-2 ซอง 4 ครั้งต่อวัน |
1-2 ซอง ทั้งเช้า และเย็น |
· ผสมกับน้ำอุ่นเพื่อกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ ( แนะนำน้ำจากเครื่องกรองน้ำ WaterLife )
· ปริมาณที่แนะนำด้านบนนั้นสำหรับอาการปกติเท่านั้น ควรปรึกษานักโภชนาการผู้เชี่ยวชาญของ CNI สำหรับอาการที่ไม่ปกติ
· สำหรับผู้สูงอายุ ( 65 ปีขึ้นไป ) หากเน้นบำบัดอาการควรบริโภค 1 ซองทั้งเช้า และเย็น
· หากต้องรับประทานยาอื่นๆ ควรเว้นระยะการรับประทานเอนไซม์อย่างน้อย 1 ชม.
รวมคำถามเกี่ยวกับเอนไซม์
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเอนไซม์
อะไรคือปัจจัยพื้นฐานสำหรับการมีสุขภาพดี?
การมีสุขภาพที่ดีนั้น เกิดจากการที่ร่างกายมีระบบเอนไซม์ที่สมบูรณ์แข็งแรง เพราะเนื้อเยื่อในอวัยวะภายในต่างๆ ล้วนเกิดจากการรวมตัวของเซล ซึ่งมีเพียงเอนไซม์เท่านั้นที่เป็นตัวกลางหรือตัวเร่งปฏิกิริยา เพื่อให้เซลสามารถดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์ กำจัดของเสีย และซ่อมแซมส่วนที่สึกหร่อ โดยในกระบวนการสร้างเซลใหม่ก็ต้องการเอนไซม์ด้วยเช่นกัน และยังเกิดจากการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ซึ่งระบบย่อยก็ยังต้องการเอนไซม์ ลดระดับความเครียด และกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้น เอนไซม์จึงเป็นสิ่งที่จะยืนยันได้ว่าทุกต่อมและทุกอวัยวะของร่างกายจะได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์อย่างครบถ้วนตามความต้องการ
เอนไซม์ คือ อะไร?
เอนไซม์คือโปรตีนชนิดหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่ในสร้างพลังงานให้กับระบบต่างๆของร่างกาย และเสริมปฏิกิริยาต่างๆของร่างกาย ในเซลทั่วทั้งร่างกายประกอบไปด้วยเอนไซม์กว่า 20,000 ชนิด และสารประกอบเคมีโคเอนไซม์ (ซึ่งเสริมการทำงานของเอนไซม์)กว่า 100,000 ชนิด เพื่อช่วยให้เรามองเห็น ได้ยิน ลิ้มรส เคลื่อนไหวร่างกาย ย่อยอาหาร และเสริมกระบวนการคิด ทุกๆอวัยวะ ทุกๆเนื้อเยื่อ และทุกๆเซลทั้งกว่า 60,000 ล้านเซล ต่างต้องพึ่งพาปฏิกิริยาเคมี และการนำพาพลังงานของเอนไซม์ ดังนั้น หากจะพูดถึงสารอาหารที่มีประโยชน์ของร่างกายแล้ว เอนไซม์ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ หรือกล่าวอีกอย่างว่าหากปราศจากเอนไซม์แล้ว ร่างกายคงไร้ชีวิต
ทำไมจึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารเสริมเอนไซม์?
ผู้คนส่วนใหญ่นิยมรับประทานอาหารปรุงสุก ซึ่งอาหารที่ปรุงสุกนี้จะไม่สามารถเพิ่มปริมาณเอนไซม์ในร่างกายของเราได้ เนื่องจากคุณสมบัติของเอนไซม์จะเสียไป เมื่ออาหารผ่านความร้อนที่อุณหภูมิ 50 C ขึ้นไป นี้คือสาเหตุที่ระดับของเอนไซม์ในร่างกายจึงค่อยๆลดลง และอายุที่เพิ่มขึ้นก็ยังเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ร่างกายผลิตเอนไซม์ลดลง นี้คือสาเหตุว่าทำไมเราจึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารเสริมเอนไซม์
*Well3 Life Enzyme ยังคงคุณสมบัติไว้ได้แม้จะผ่านอุณหภูมิสูงกว่า 118 C
ทำไมเราจึงไม่เคยทราบถึงความสำคัญของเอนไซม์มาก่อน?
เริ่มมีการศึกษาการใช้เอนไซม์จากพืชตั้งแต่ช่วงปี 1930 แต่ก็ยังไม่ที่แพร่หลายนัก จนค่อยๆเริ่มเป็นที่สนใจในช่วงปี 80 จนเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นแนวทางใหม่ในการดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานเอนไซม์เสริม และช่วยร่างกายย่อยอาหารที่ปรุงสุก
คุณสมบัติต่างๆของวิตามิน เป็นสิ่งที่เสริมการทำงานให้กับเอนไซม์เท่านั้น เพราะทั้งวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆเป็นสารประกอบโคเอนไซม์ ซึ่งมีหน้าที่เพียงนำผลจากการทำงานของเอนไซม์ในฐานะตัวเร่งปฏิกิริยา เข้าสู่เซล
อะไรคือแหล่งของเอนไซม์?
อาหารดิบ หรืออาหารที่ยังไม่ผ่านการปรุง แม้ว่า เอนไซม์ที่อยู่ในอาหารดิบจะทำให้หลายคนกว่าข้ามมาตรฐานความปลอดภัยของอาหาร และย่อมเสี่ยงกับเชื้อโรคต่างๆ จึงปลอดภัยกว่าที่จะเสริมเอนไซม์ให้กับร่างกายด้วย Well3 Life Enzyme ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี MENEP ที่รวมเอาเอนไซม์ธรรมชาติกว่า 300 ชนิดเข้าด้วยกัน และยังคงคุณสมบัติของเอนไซม์ไว้ได้อย่างครบถ้วน โดยไม่ได้เติมสารเคมีใดๆที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย นอกจากนั้น ยังรับประกันได้ถึงความปลอดภัย ความเสถียร ความไวต่อปฏิกิริยา และคุณสมบัติที่ครบถ้วนของเอนไซม์คุณภาพสูงที่รวบรวมอยู่ในผลิตภัณฑ์
Well3 Life Enzyme ทำงานในร่างกายของเราอย่างไร?
เมื่อรับประทานเข้าไป Life Enzyme จะเข้าสู่ร่างกาย และเริ่มย่อยสารอาหารที่เรารับประทานเข้าไป สารอาหารต่างๆก็จะถูกย่อยให้รูปแบบละเอียดซึ่งง่ายต่อการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดผ่านทางไมโครพอร์ที่ผนังลำไส้ เอนไซม์ที่อยู่ในเลือดก็ดึงเอาประโยชน์ของสารอาหารต่างๆมาใช้พัฒนาเซล กล้ามเนื้อ เส้นประสาท กระดูก เลือด ตับ และต่อมต่างๆ เอนไซม์แต่ละชนิดใน Life Enzyme ต่างมีคุณสมบัติเฉพาะในการย่อยสารอาหารแต่ละชนิดกันไป โดยไม่รบกวนการทำงานซึ่งกันและกันเอง รู้หรือไม่ว่า? ร่างกายของเราไม่สามารถทำงานได้อย่างสมดุลย์หากปราศจากเอนไซม์
เป็นไปได้หรือไม่ที่ร่างกายของเราจะหยุดผลิตเอนไซม์?
ไม่มีทาง แต่หากเรารับประทานอาหารเสริมเอนไซม์ติดต่อกันสักระยะ ก็จะช่วยลดภาระในการผลิตเอนไซม์ของร่างกายไปได้มาก ตามปกติแล้ว ร่างกายของเราจะจัดการกับอาหารที่รับประทานเข้าไปผ่านใน 3-7 วัน ช่วง 1-3 ชม.แรกหลังจากรับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายจะถูกกระตุ้นด้วยอาหารที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารให้หลั่งเอนไซม์ออกมาเพื่อช่วยย่อยและดูดซึมสารอาหาร ดังนั้น เมื่อเรารับประทานอาหารเสริมเอนไซม์ในช่วงนั้น จึงช่วยลดภาระที่ร่างกายจะต้องผลิตเอนไซม์ แต่อย่างไร อาหารในกระเพาะก็ยังคงกระตุ้นให้ตับอ่อนผลิตเอนไซม์อยู่ดี ฉะนั้น ร่างกายของเราจึงไม่เคยหยุดผลิตเอนไซม์ไม่เราจะอายุเท่าใด เพียงแต่มีปริมาณลดลงเท่านั้น
TIPS
การดื่มเครื่องดื่มเอนไซม์ที่ผลิตเอง สามารถช่วยรักษาสุขภาพได้หรือไม่?
การดื่มเครื่องดื่มเอนไซม์ที่ผลิตเองนั้น ไม่ต่างกับการดื่มเครื่องแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่ได้มีส่วนประกอบของเอนไซม์ การเติมน้ำตาลเข้าไปเพียงเพื่อเพิ่มความหวาน ลดปริมาณของน้ำอิสระที่เอื้อต่อการบูด และลดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย แต่อย่างไร แบคทีเรียก็ยังสามารถเจริญเติบโตได้อยู่ดี และอาจก่อให้เกิดพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในประเทศเขตร้อนอย่างประเทศไทย การดื่ม “สารพิษ” เป็นระยะเวลานานอาจก่อให้ผลเสียกับตับอีกด้วย
เอนไซม์กับโรคภัย
เอนไซม์ช่วยเราต่อสู้กับโรคร้ายได้อย่างไร?
จากการศึกษาทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เปิดเผยว่าถึงผลดีของเอนไซม์ต่อผู้ป่วยโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไมเกรน อาการนอนไม่หลับ ภาวะภูมิแพ้ เบาหวาน โรคหัวใจ และลูคีเมีย เพราะเอนไซม์จะช่วยย่อยอาหาร และนำพาสารอาหารไปทั่วทั้งร่างกาย นอกจากนั้น เอนไซม์ยังมีส่วนช่วยให้ระบบต่อมไร้ท่อผลิตฮอรืโมนได้อย่างสมดุลย์ และช่วยให้เซลทำงานได้อย่างปกติ จึงช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น และช่วยเราต่อสู้กับโรคร้าย
เอนไซม์ช่วยคุมโรคอ้วนได้หรือไม่?
แน่นอน เพราะผู้ที่มีน้ำหนักเกิน มักเกิดจากการขาดเอนไซม์ที่จะไปสลายไขมัน ในอาหารดิบจะอุดมไปด้วยเอนไซม์ที่ช่วยย่อยและจัดเก็บไขมัน หากปราศจากเอนไซม์ ไขมันจะสะสมตัวที่หลอดเลือดซึ่งอาจนำไปสู่โรคหัวใจ นอกจากนั้น เอนไซม์ยังช่วยเปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน อาหารปรุงสุกมีส่วนให้น้ำหนักร่างกายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหากเทียบกับอาหารดิบ เพราะเอนไซม์ในอาหารให้สูญเสียไปแล้วในระหว่างการปรุง และอาหารปรุงสุกยังมีผลต่ออาการผิดปกติของร่างกายซึ่งเกิดความผิดปกติของต่อมพิทูอิตารี เพราะเอนไซม์เองมีส่วนช่วยในระบบต่อมไร้ท่อในการผลิตฮอร์โมน ดังนั้น ระดับฮอร์โมนจึงขึ้นอยู่กับระดับของเอนไซม์ เมื่อเรารับประทานอาหารปรุงสุก ตับอ่อน ต่อมไทรอยด์ และต่อมพิทูอิตารีจะต้องใช้เอนไซม์จำนวนมากในการย่อยอาหาร ดังนั้นร่างกายจึงสูญเสียเอนไซม์ และภาวะน้ำหนักเกินจึงเกิดขึ้นตามมา
การบำบัดด้วยเอนไซม์มีผลต่ออาการข้ออักเสบหรือไม่?
จากการศึกษาพบว่า โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นความผิดปกติของระบบสร้างพลังงาน ซึ่งเกิดจากลำไส้เล็กไม่สามารถย่อยโปรตีนได้อย่างสมบูรณ์ ในการวิจัยชิ้นหนึ่ง ได้นำเอาเอนไซม์ที่สกัดได้จากเนื้อเยื่อของลำไส้เล็ก มาใช้กับผู้ป่วยโรครูมาตอยด์ 700 คน ในระยะเวลา 7 ปี พบว่า สามารถบำบัดอาการได้ทั้งข้ออักเสบรูมาตอย ข้อเสื่อม และก้อนเนื้อย่อยอ่อน ซึ่งต้องใช้เอนไซม์ชนิดนี้ต่อเนื่อง 6-9 สัปดาห์ถึงจะเห็นผลได้อย่างชัดเจน แต่สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการข้ออักเสบมานาน ผลการบำบัดอาการอาจจะต้องใช้ระยะมากขึ้น
การบำบัดด้วยเอนไซม์มีส่วนช่วยต่อต้านมะเร็งหรือไม่?
เซลมะเร็งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นเมื่อร่างกายอยู่ในสภาวะขาดเอนไซม์ เซลร่างกายปกติจะต้องสารอาหารประมาณ 45 ชนิดต่อวัน เพื่อการทำงานที่เป็นปกติ แต่ถึงแม้จะได้รับสารอาหารครบถ้วน แต่เซลก็ยังทำงานไม่ได้เพราะยังต้องการเอนไซม์เพื่อสร้างพลังงานในการพัฒนาเม็ดเลือด เส้นประสาท อวัยวะและเนื้อเยื่อ หากร่างกายต้องเอนไซม์จำนวนมากไปกับการย่อยอาหาร และส่วนที่เหลือเล็กน้อยไปใช้ในการรักษาระบบการทำงานต่างๆของร่างกาย สภาวะเช่นนี้ อาจเปิดโอกาสให้เซลมะเร็งเติบโตได้มากขึ้น และด้วยการรับประทานอาหารเสริมเอนไซม์เพื่อใช้ในระบบย่อยอาหาร ร่างกายก็จะมีเอนไซม์เหลือมากพอที่จะเข้าไปเสริมการทำงานในระบบต่างๆได้มากขึ้น และช่วยป้องกันเซลมะเร็ง
เอนไซม์ช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้หรือไม่?
ผลการวิจัยต่างๆ แนะนำให้ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้บริโภคอาหารดิบเพราะอาหารปรุงสำเร็จมักไร้เอนไซม์ และยังทำลายเอนไซม์ในร่างกาย จนทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ เช่น อาการคัน คัดจมูก และผื่นขึ้น เอนไซม์ในกระบวนการสร้างพลังงานชนิดหนึ่งมีหน้าที่ในการขจัดกากจากการผลิตพลังงาน และทำความสะอาดระบบไหลเวียนเลือด และยังมีเอนไซม์ที่อาศัยอยู่บนเม็ดเลือดขาวที่ป้องกันการอุดตันของเส้นเลือด และป้องกันข้อของเราจากสิ่งแปลกปลอมต่างๆ โดยจะขจัดออกทางกระแสเลือด แต่หากไม่สามารถทำได้ จะขับออกทางผิวหนัง ทางจมูก หรือทางหลอดอาหารซึ่งทำให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ แต่นักวิจัยบางท่านเชื่อว่าโมเลกุลโปรตีนที่ไม่ถูกย่อยเป็นสาเหตุให้เกิดอาการแพ้ และนี้คือสาเหตุที่การรับประทานอาหารเสริมเอนไซม์ หรือเสริมเอนไซม์โปรติเอสจะช่วยบรรเทาอาการแพ้ได้
เอนไซม์ช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลได้หรือไม่?
ได้ แน่นอน การขาดแคลนเอนไซม์เป็นสาเหตุให้คลอเลสเตอรอลก่อตัวที่ผนังหลอดเลือด ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดแดงหนาพบว่าเอนไซม์ไลเปสในกระแสเลือดอยู่ในระดับต่ำ และการดูดซึมไขมันในลำไส้ค่อนข้างช้า อีกทั้งไขมันที่ดูดซึมเข้าไปบางส่วนยังอยู่ในรูปแบบที่มีความซับซ้อน ในสัตว์ป่าจะเกิดภาวะหลอดเลือดแดงหนาค่อนข้างน้อย เนื่องจากสัตว์ป่าจะกินอาหารดิบซึ่งอุดมด้วยเอนไซม์ ดังนั้นการรับประทานอาหารเสริมเอนไซม์ซึ่งอุดมไปด้วยเอนไซม์ไลเปสจึงช่วยลดปัจจัยการก่อตัวที่ผนังหลอดเลือดและหัวใจ เมื่อทานอาหารปรุงสุก คลอเลสเตอรอลจากอาหารจะก่อตัวติดในเส้นเลือด เนื่องจากเอนไซม์ไลเปสได้ถูกทำลายไป แต่การทานอาหารดิบ หรืออาหารเสริมเอนไซม์ไลเปสก็จะช่วยให้ระดับเคลเลสเตอรอลต่ำ และป้องกันโรคหัวใจ
เอนไซม์ช่วยควบคุมภาวะเบาหวานได้หรือไม่?
การบำบัดด้วยเอนไซม์ได้ผลดีในผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 ระดับน้ำตาลในเลือดจะเพิ่มกว่าปกติหากเลือดของเราขาดเอนไซม์ จากการวิจัยพบว่า 86% ของผู้ป่วยเบาหวานที่ขาดแคลนเอนไซม์ในลำไส้สามารถควบคุมอาการได้ด้วยการรับประทานอาหารเสริมเอนไซม์ และ 50% ของผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องใช้อินซูลิน อาการดีขึ้นจึงไม่ต้องใช้อินซูลินอีกต่อไป งานวิจัยนี้พิสูจน์ว่าเอนไซม์มีส่วนช่วยในการจัดเก็บและใช้น้ำตาลในกระแสเลือด เมื่ออาหารถูกปรุงให้สุก คาร์โบไฮเดรตและเอนไซม์จะถูกทำลายไป ระดับน้ำตาลในเลือดจึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งชม.แรกหลังรับประทานอาหาร จะลดลงอย่างรวดเร็วใน 2 ชม.หลังจากนั้น การเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในเลือดนี้จะทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเพลีย กระวนกระวายและเซื่องซึม ในทางตรงข้าม หากเราบริโภคคาร์โบไฮเดรตที่ยังไม่การปรุง ระดับน้ำตาลในเลือดจะไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก และไม่ก่อให้เกิดอาการใดๆ ดังนั้น ผู้ป่วยเบาหวานหลายรายจึงเลือกบริโภคคาร์โบไฮเดรตดิบ หรือทานอาหารเสริมเอนไซม์เพื่อลดการใช้ยาอินซูลิน
เอนไซม์ช่วยดูแลภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำได้หรือไม่?
การขาดเอนไซม์ในอาหารเป็นสาเหตุให้ต่อมพิทูอิตารี และอวัยวะต่างๆใหญ่ขึ้น และเพิ่มโอกาสที่อวัยวะเหล่านั้นจะเป็นโรค โดยเฉพาะอาการระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ระดับน้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูงขึ้นเมื่อร่างกายขาดเอนไซม์ แต่ระดับน้ำตาลในเลือดจะคงที่ขึ้นเมื่อรับประทานเอนไซม์เสริม ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาวะซึมเศร้า อ่อนเพลีย และภาวะสมองตันอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรุนแรง
หากเอนไซม์ช่วยบรรเทาอาการความโลหิตต่ำได้ นั่นหมายความว่า ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง ไม่ควรบริโภคเอนไซม์เสริมใช่หรือไม่?
เอนไซม์จะช่วยย่อยและสลายคลอเลสเตอรอลที่ทำให้เลือดเป็นกรด จึงเท่ากับทำให้ร่างกายมีระดับ pH กลับมาเป็นปกติ ซึ่งช่วยระบบไหลเวียนเลือดกลับมาเป็นปกติ และช่วยลดความดันโลหิต นอกจากนี้เอนไซม์ยังช่วยเพิ่มการสร้างพลังงานภายในเซล กระตุ้นเซล สร้างเซลใหม่ และช่วยให้ผลตรวจเลือดของผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงดีขึ้น เรียกง่ายๆว่า เอนไซม์จะช่วยคืนระดับความดันโลหิตให้กลับมาเป็นปกติ
เอนไซม์เหมาะสำหรับผู้ป่วยกระเพาะอาหารอักเสบหรือไม่?
Well3 Life Enzyme เป็นสูตรที่เลียนแบบอาหารที่ถูกย่อยแล้ว ทำให้สามารถผ่านกระเพาะอาหารส่วนปลายได้ง่าย โดยไม่กระตุ้นการทำงานของกระเพาะเพื่อเข้าสู่ลำไส้เล็กและนำส่งไปทั่วทั้งร่างกาย เอนไซม์ที่มีหน้าที่ต่อต้านแบคทีเรีย และต้านอาการติดเชื้อก็ยังช่วยเสริมพลังการเยี่ยวยาตนเองของร่างกาย ดังนั้นการรับประทานอาหารเสริมเอนไซม์ในปริมาณมากจึงดีต่อผู้ป่วยกระเพาะอาหารอักเสบ หากผู้ป่วยท่านใดมีอาการปวดท้องเมื่อท้องว่าง แนะนำให้รับประทานเอนไซม์หลังมื้ออาหาร
เอนไซม์มีผลต่อปัญหาผิวหนังหรือไม่?
เอนไซม์ช่วยบรรเทาปัญหาผิวหนังได้ โดยเฉพาะรอยด่างดำ และสิว เพราะเอนไซม์ช่วยขจัดสารประกอบที่เป็นพิษในเลือดและลำไส้เพื่อเสริมกระบวนการสร้างพลังงาน กระตุ้นเซล และเสริมระบบภูมิคุ้มกัน เรียกได้ว่า เอนไซม์มีหน้าทั้งดูแลสุขภาพและเสริมความงาม
เอนไซม์ช่วยลดผมขาว ผมร่วง และลดรังแคได้หรือไม่?
ได้ โดยทำความสะอาดหนังศีรษะและรากผม จากนั้นโรยเอนไซม์ลงบนหนังศีรษะแล้วนวด และรับประทานเอนไซม์ตามปกติ เอนไซม์จะช่วยทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น จะช่วยให้อาการค่อยๆดีขึ้น แนะนำให้รับประทานอาหารเสริมเอนไซม์ติดต่อกันสักระยะเพื่อการเห็นผลที่ชัดเจน
Well3 Life Enzyme จะเข้าไปรบกวนการทำงานของยาชนิดอื่นๆหรือไม่?
Well3 Life Enzyme เป็นผลิตภัณฑ์เอนไซม์สกัดจากพืชตามธรรมชาติ มีหน้าที่ในการย่อย และนำส่งสารอาหารที่เป็นประโยชน์ให้กับร่างกาย ไม่ได้ใช้สารสังเคราะห์ใดๆในการกระตุ้นปฏิกิริยา เอนไซม์จึงไม่รบกวนการทำงานของยาชนิดใดๆ และไม่ก่อนให้เกิดผลเสียใดๆ เมื่อรับประทานอย่างต่อเนื่อง
การรับประทานเอนไซม์มีผลข้างเคียง หรือปฏิกิริยาการรักษาหรือไม่?
Well3 Life Enzyme ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ และปลอดภัยแม้รับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานทั้งผู้ป่วย และผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่ปฏิกิริยาการรักษาอาจเกิดขึ้นได้ ในขั้นตอนการขจัดพิษออกจากส่วนต่างๆของร่างกายที่กำลังอ่อนแอตามอาการของแต่ละโรค นี้เป็นอาการปกติ ไม่ต้องกังวลใดๆ เพียงลดปริมาณบริโภคลงหากอาการค่อนข้างรุนแรง แต่ไม่ควรหยุดรับประทานโดยทันที เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของคุณ
คำถามถามบ่อยเรื่องอื่นๆ
ความต้องการเอนไซม์ของนักกีฬา และผู้ใช้แรงงานแตกต่างจากผู้คนทั่วไปหรือไม่?
แน่นอน ในทางทฤษฎีแล้ว นักกีฬาและผู้ใช้แรงงานต้องการเอนไซม์ปริมาณมากตามกิจกรรมของพวกเขา เพราะเอนไซม์จำนวนมากสูญเสียไปทางเหงื่อ และทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยและกระหายน้ำ ฉะนั้น ผู้ที่มีกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมากยิ่งต้องอาหารเสริมเอนไซม์มากขึ้น
เมื่อเด็กก็จำเป็นต้องได้รับเอนไซม์ แล้วเอนไซม์ปลอดภัยแต่ทั้งเด็ก และสตรีมีครรภ์หรือไม่?
เอนไซม์จากพืชที่เป็นธรรมชาติและมีคุณภาพ จึงไม่เป็นอันตรายต่อสตรีมีครรภ์ ซึ่งเอนไซม์ไม่เพียงจะนำสารอาหารบำรุงร่างกายคุณแม่เท่านั้น แต่ช่วยให้คุณลูกในครรภ์เจริญเติบโตได้ดี และยังบรรเทาอาการแพ้ท้อง ไม่ว่าจะเป็นอาการวิงเวียน หรือคลื่นไส้อาเจียน ฉะนั้น สตรีมีครรภ์สามารถรับประทานอาหารเสริมเอนไซม์ได้อย่างต่อเนื่อง
สตรีวัยหมดประจำเดือนควรรับประทานอาหารเสริมเอนไซม์ปริมาณเท่าไร?
ในทางการแพทย์จะแนะนำให้สตรีวัยหมดประจำเดือนบริโภควิตามินและฮอร์โมนเสริมเพื่อกระตุ้นเอนไซม์ในร่างกาย และเสริมการทำงานของเซลในร่างกายให้แข็งแรง เพื่อบรรเทาอาการต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงหมดประจำเดือน เอนไซม์จากธรรมชาติจึงสามารถบรรเทาอาการไม่สบายเนื้อตัว และยังดีต่อร่างกายมากกว่าฮอรโมนสังเคราะห์
ในการบำบัดด้วยเอนไซม์ จะต้องใช้ระยะเวลาในการบำบัดอาการนานเพียงใด?
ริดสีดวงทวาร – ต้านอาการติดเชื้อ และบรรเทาอาการเจ็บ : 2-3 วัน, ท้องผูก ท้องเสีย : 3-5 วัน, อาการในวัยหมดประจำเดือน : 7-10 วัน, อาการหอบหืด :
หน้าที่เข้าชม | 12,493 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 9,359 ครั้ง |
เปิดร้าน | 18 ม.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 2 ต.ค. 2568 |